วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ทาโกวังหลัง

ทาโกวังหลัง
วันนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นมาแนะนำ ร้านอรทัยซูชิวังหลัง ขึ้นชื่อมากกกกกก มีทาโกยากิ ลูกละ5บาทเท่านั้นคนแน่นตลอด ที่สำคัญราคาถูกไม่แพง สบายปลาเก๋า ! เอ้ย ! กระเป๋า 

ซูชิ มีหลายหน้า เลือกไม่ถูกน่ากินไปหมด


เป็นเซตก็มี


กระดาษจดออเดอร์ อยากกินอะไรใส่จำนวนเลย


พวกเราไปกัน4คน

อาหารที่เราสั่งกันมา





 อิ่มกันแล้ววววววว บ้ายบาย :)

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

ร้านอาหารป้อมพระจุล

ร้านอาหารป้อมพระจุล

ณ จุดที่ลำน้ำเจ้าพระยา ไหลลงสู่อ่าวไทย 
 
ป้อมพระจุลฯ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ


บรรยากาศภายในร้านอาหาร




อาหารที่แนะนำ


ปลาหมีกไข่นึ่งมะนาว


ปลากระพงทอดน้ำปลา


ห่อหมกทะเล


ส้มตำทะเล


ทอดมันกุ้ง

ของหวานแนะนำของร้าน


ข้าวเหนียวมะม่วง

ทางร้านจะมีสิทธิพิเศษสมัครบัตรสมาชิกฟรี! ไว้ลดค่าอาหารในครั้งต่อไป 10%

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

พัทยา พาเพลิน !!



                                                        PATTAYA !!

   

  เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันได้ไปพักผ่อนกับครอบครัวที่พัทยา 
     บรรยากาศ ชิวๆ ลมมีตลอดแต่ แดด แรง มาก!
     ทุกๆคนก็สนุก เฮฮา ตามประสา 



ซื้ออาหารมากินกัน จนอิ่มมมมม







วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ขนมหวานแพงที่สุดในโลก

                                      ขนมหวานแพงที่สุดในโลก 

10 The Golden Opulence Sundae ของร้าน Serendipity 3 ในแมนฮัตตันไอศครีมช็อคโกแลตซันเด ถ้วยนี้ ได้รับการจดบันทึกลงในกินเนสบุ้ค ออฟ เวิล์ด เรคคอร์ด ว่าเป็น “ขนมหวานแพงที่สุดในโลก” มีจำหน่ายที่ร้าน Serendipity 3 ในแมนฮัตตัน กลางกรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ด้วยสนนราคาถ้วยละ 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 850,000 บาท “Frrrozen Haute Chocolate” คือ ชื่อของช็อคโกแลต ซันเดแพงระยับถ้วยนี้ ส่วนสาเหตุที่มีราคาแพงเนื่องมาจากไอศครีมมีส่วนผสมของโกโก้พันธุ์ดีและหา ยากมากๆ จำนวน 28 ผล (ในจำนวนนี้มีอยู่ 14 ผลที่เป็นโกโก้ชนิดแพงที่สุด) และทองคำ 23 เค ชนิดทานได้ น้ำหนัก 5 กรัม ไอศครีมดังกล่าวจะถูกบรรจุลงในถ้วยทองคำ ที่มีแผ่นทองคำชนิดทานได้รองอยู่ภายในถ้วย นอกจากนี้บริเวณฐานของถ้วยไอศครีมยังตกแต่งด้วยสร้อยทอง 18 เค พร้อมกับเพชรแท้สีขาวอีก 1 กะรัต




9    ออมเล็ตแพงที่สุดในโลก – ออมเล็ตของภัตตาคาร Le Parker Meridien ในกรุงนิวยอร์ค
“ออมเล็ต” หรือไข่คน แพงที่สุดในโลกหารับประทานได้ที่ภัตตาคาร “Le Parker Meridien” ในกรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ที่นั่นเขาขายออมเล็ต (ภาพบน) จานละ 1,000 เหรียญ หรือประมาณ 34,000 บาท ประกอบด้วยส่วนผสมหลัก ได้แก่ ไข่ปลาคาเวียร์ (sevruga) น้ำหนัก 10 ออนซ์ กุ้งล็อบสเตอร์ทั้งตัว และไข่อีก 6 ฟอง เป็นต้น (เขาว่าถ้านำส่วนผสมทั้งหมด มาทำเองที่บ้าน ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ราวๆ 700 เหรียญ หรือประมาณ 23,800 บาท)




8    พิซซ่าแพงที่สุดในโลก – พิซซ่า Louis XIII
พิซซ่าที่แพงสุดในโลก คือ พิซซ่า “Louis XIII” ฝีมือเชฟหนุ่มชาวอิตาลีที่ชื่อ “เรนาโต้ วิโอล่า” พิซซ่า “Louis XIII” มีขนาด 8 นิ้ว ก่อนทำต้องใช้เวลาในการเตรียมแป้งเป็นเวลานานถึง 72 ช.ม. ขณะที่ท็อปปิ้งหรือหน้าพิซซ่าล้วนมาจากส่วนผสมคุณภาพเยี่ยม อาทิ ชีส mozzarella di bufala ไข่ปลาคาเวียร์ 3 ชนิด กุ้งล็อบสเตอร์จาก Cilento (ในอิตาลี) และประเทศนอร์เวย์ โรยหน้าด้วยเกลือสีชมพูที่มาจากแม่น้ำ Murray ในประเทศออสเตรเลีย ฯลฯ พิซซ่าแพงสุดในโลก “Louis XIII” จำหน่ายในราคาอันละ 8,300 ยูโร หรือเกือบ 4 แสนบาท (ราคานี้รวมค่าตัวเชฟและผู้ช่วยอีก 2 คน ที่จะหอบข้าวของและอุปกรณ์ต่างๆ ไปทำพิซซ่าถึงบ้านลูกค้า)



7    แซนด์วิชแพงที่สุดในโลก – คลับแซนด์วิช “von Essen Platinum”

นี่คือโฉมหน้าแซนด์วิช “แพงที่สุดในโลก” ฝีมือนายเจมส์ พาร์คินสัน หัวหน้าเชฟของโรงแรมหรู “von Essen” ในเมืองเบิร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากสังเกตุส่วนผสมของแซนด์วิชในโรงแรมหรูห้าดาวทั่วโลกที่เขาได้มีโอกาส ไปเยี่ยมเยียน เขาจึงคิดรวบรวมส่วนผสมที่ดีที่สุดของแซนด์วิชในแต่ละโรงแรมมาไว้ในอันเดียว กัน ด้วยเหตุนี้ “von Essen Platinum Club Sandwich” ของเขาจึงกลายเป็นคลับแซนด์วิชแพงที่สุดในโลก ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบด้วยส่วนผสมหลักคือ เนื้อไก่อย่างดี (พันธุ์ poulet de Bresse ของฝรั่งเศส) แฮม Iberian ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแฮมหายากคุณภาพเยี่ยมจากประเทศสเปน เห็ดทรัฟเฟิลขาวและมะเขือเทศจากประเทศอิตาลี ไข่นกกระทาต้มสุก และขนมปังที่ผลิตจากแป้งชนิดพิเศษ แซนด์วิช “von Essen Platinum” ของเชฟพาร์คินสัน จำหน่ายในราคาอันละ 100 ปอนด์ หรือกว่า 5.5 พันบาท ถ้าใครอยากลองทานว่าจะเด็ดสักแค่ไหน ก็ไปพิสูจน์ได้ที่ภัตตาคาร “Cliveden’s Waldo” ของโรงแรม “von Essen”





6    เนื้อแพงที่สุดในโลก – เนื้อที่มาจากวัววากิว (Wagyu) ประเทศญี่ปุ่น
เนื้อแพงที่สุดในโลก คือ เนื้อที่มาจากวัววากิว (Wagyu) ประเทศญี่ปุ่น วัววากิวถือเป็นวัวพื้นเมืองที่มีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน ชาวญี่ปุ่นจะเลี้ยงดูวัวเหล่านี้อย่างดีเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการให้หญ้าพันธุ์ดี ธัญพีช ฟาร์มบางแห่งถึงขนาดมีการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้วัว หรือไม่ก็ผสมสาเก หรือเบียร์ ลงไปในอาหาร เนื้อวัวหลายชนิดที่คนรักเนื้อในบ้านเรารู้จักกันดีอย่างเช่น เนื้อโกเบ และมัตสึซากะ ฯลฯ ก็มาจากวัววากิวเช่นกัน แต่สาเหตุที่เรียกชื่อต่างกันเป็นเพราะว่าเลี้ยงกันคนละเมือง (เนื้อโกเบ มาจากฟาร์มในเมืองโกเบ ส่วนเนื้อมัตสึซากะมาจากฟาร์มในเมือง มัตสึซากะ เป็นต้น) เนื้อจากวัววากิวมีคุณค่าทาโภชนาการสูง และไขมันต่ำ รสชาติอร่อย นุ่มลิ้น ราวกับละลายในปาก จึงมีราคาสูงมาก – ที่ยุโรปเนื้อจากวัววากิวน้ำหนักประมาณ 200 กรัม มีราคาขายสูงกว่า 34,000 บาท


5    มันฝรั่งแพงที่สุดในโลก – La Bonnotte
มันฝรั่งราคาแพงที่สุดในโลก คือ “La Bonnotte” ปลูกได้เฉพาะบนเกาะนีวร์มูทีเยของประเทศ ฝรั่งเศสเท่านั้น แถมปีหนึ่งๆ ยังเก็บเกี่ยวได้เพียง 10 วัน ทั้งยังบอบบางมากเสียจนต้องใช้มือถอน และให้ผลผลิตเพียงปีละ 20,000 ก.ก. ด้วยเหตุนี้มันฝรั่งที่ว่าจึงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 2.3 หมื่นบาทเลยทีเดียว



4    เห็ดแพงที่สุดในโลก – ทรัฟเฟิลขาว
เห็ดที่มีราคาแพงที่สุดในโลกคือ เห็ดทรัฟเฟิลขาว ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในแถบ Langhe แห่งแคว้นปีเอมอนเต ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ในอดีตคนเก็บเห็ดทรัฟเฟิลจะใช้หมูช่วยดมกลิ่นค้นหา แต่ระยะหลังๆ มักนิยมใช้สุนัขมากกว่า เพราะสุนัขจะไม่กินเห็ดเหมือนหมู เห็ดชนิดนี้มีราคาขายสูงถึง 1,700 – 3,800 ยูโร ต่อ 1 ก.ก. (ราว 82,000 – 183,502 บาท/ก.ก) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เห็ดทรัฟเฟิลสีขาว น้ำหนัก 1.08 กก. จากอิตาลี ถูกนายสแตนลีย์ โฮ มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจคาสิโนในมาเก๊า ประมูลไปในราคาสูงถึง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.8 ล้านบาท แต่สถิติเห็ดทรัฟเฟิลขาวราคาสูงสุดที่มีการบันทึกไว้ คือ 330,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11 ล้านบาท ซึ่งนายสแตนลีย์ โฮ เจ้าเก่า เป็นผู้ชนะประมูลเมื่อปี ค.ศ. 2007



3    ไข่ปลาคาเวียร์แพงที่สุดในโลก – เบลูก้า คาเวียร์

ไข่ปลาคาเวียร์แพงที่สุดในโลก ไม่ได้มีสีดำอย่างที่หลายท่านคุ้นเคย แต่เป็นชนิดที่มีสีเทาอ่อนๆ ไล่ลงมาจนเกือบขาวตามอายุของปลา ยิ่งปลาอายุมากไข่ก็จะมีสีอ่อนลง และมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ไข่ปลาคาเวียร์อัลมาส (ภาษาเปอร์เซี่ยนแปลว่า “เพชร”) ที่ได้มาจากปลา “เบลูก้า สเตอเจี้ยน” อายุหนึ่งร้อยปีขึ้นไป ถือเป็นไข่ปลาคาเวียร์ที่หายากที่สุด และมีราคาแพงที่สุด โดยมีราคาสูงถึงเกือบ 25,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (ประมาณ 850,000 บาท/ก.ก.) ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของเบลูก้า คาเวียร์ โดยทั่วไปในปัจจุบันจะอยู่ที่ 7,000 – 10,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (ราว 2.38 -3.4 แสนบาท/ก.ก.)ปลา “เบลูก้า สเตอเจี้ยน” มีถิ่นอาศัยอยู่ในทะเลแคสเปียน ซึ่งเป็นทะเลปิดที่อยู่ระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป อันเป็นพรมแดนของประเทศรัสเซีย อาเซอร์ไบจาน อิหร่าน เติร์กเมนิสถาน และประเทศคาซัคสถาน บางครั้งอาจพบปลาดังกล่าวอาศัยอยู่ในแถบทะเลดำ นานๆ ครั้งจึงโผล่ให้เห็นบ้างในทะเลอาเดรียติก ปลาชนิดนี้จะถือว่าโตเต็มที่พร้อมให้ผลผลิต (ไข่) เมื่อมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป



2    ถั่วแพงที่สุดในโลก – แมคคาเดเมีย

ถั่วที่มีราคาแพงที่สุดในโลก คือ ถั่วแมคคาเดเมีย ถั่วชนิดนี้จะให้ผลผลิตต่อเมื่อมีอายุตั้งแต่ 7-10 ปีขึ้นไป ซึ่งการปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้นจะต้องหมั่นคอยดูแลใส่ปุ๋ย และปลูกในที่ๆ มีฝนตกชุก ถั่วชนิดนี้เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน โดยมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลียมากถึง 7 สายพันธุ์ ที่นิว คาเลโดเนีย 1 สายพันธุ์ และ ที่เมืองสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย อีก 1 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่มีความสำคัญและมีมูลค่าในเชิงการค้ามากที่สุดมีเพียง 2 สายพันธุ์ คือ Macadamia integrifolia และ Macadamia tetraphylla ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในรัฐนิวเซาธ์ เวลส์ และควีนสแลนด์ ของประเทศออสเตรเลีย ไร่แมคคาเดเมียที่ปลูกขึ้นเพื่อการค้าเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นในช่วงต้นของยุคปี ค.ศ. 1880 (พ.ศ. 2423) ในรัฐนิวเซาธ์ เวลส์ ของประเทศออสเตรเลีย อีก 2 ปีต่อมาได้มีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์แมคคาเดเมียจากออสเตรเลียไปทดลองปลูกที่ ฮาวาย และเริ่มมีการปลูกแมคคาเดเมียในเชิงการค้าที่นั่นอย่างจริงจังนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) เป็นต้นมา นอกจาก ออสเตรเลีย และฮาวายแล้ว ยังมีประเทศอื่นๆ ที่ปลูกแมคคาเดเมียเป็นพืชเศรษฐกิจอีก ได้แก่แอฟริกาใต้ บราซิล สหรัฐอเมริกา (แคลิฟอร์เนีย) คอสตา ริก้า อิสราเอล เคนย่า โบลิเวีย นิวซีแลนด์ และมาลาวี โดยมีออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก สำหรับราคาขายของถั่วชนิดนี้จะอยู่ที่มากกว่า 30 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (มากกว่า 1 พันบาท/ก.ก.)


1    เครื่องเทศแพงที่สุดในโลก – แซฟฟรอน

แซฟฟรอน เป็นเครื่องเทศที่ได้มาจากเกสรตัวเมีย (สีแดงอมส้ม) ของดอกแซฟฟรอน โครคัส ซึ่งแต่ละดอกจะมีเพียง 3 เกสรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ การที่จะผลิตแซฟฟรอนแห้งให้ได้น้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ (0.45 ก.ก.) จะต้องใช้ดอกแซฟฟรอน โครคัส มากถึง 50,000-75,000 ดอก หรือปริมาณมากเท่ากับ 1 สนามฟุตบอลเลยทีเดียว ดอกโครคัส พบได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก อาทิ ประเทศสเปน กรีซ อิหร่าน อินเดีย โมร็อกโก เป็นต้น แต่ประเทศที่ผลิตเครื่องเทศแซฟฟรอนได้มากที่สุดในโลกก็คือ อิหร่าน ซึ่งคิดเป็นส่วนมากถึง 94 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการผลิตทั่วโลก ประเทศที่นิยมใช้แซฟฟรอนเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารได้แก่ อิหร่าน และประเทศอาหรับอื่นๆ รวมถึงประเทศในแถบเอเชียกลาง อินเดีย ตุรกี ยุโรป ฯลฯ ราคาขายส่งและขายปลีกของเครื่องเทศชนิดนี้อยู่ที่ระหว่าง 500-5,000 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งปอนด์ (ราว 17,000-170,000 บาท/0.45 ก.ก) หรือ 1,100-11,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (ราว 37,400 – 374,000 บาท/ก.ก.)





วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

One Piece

      
                                                                   One piece



                                                  10. แซงคูสช่วยชีวิตลูฟี่

เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในตอนที่ลูฟี่ยังเป็นเด็ก ลูฟี่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านฟูเชีย และก็รู้จักกับกลุ่มโจรสลัดของแซงคูส แล้วก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มโจรภูเขาได้เข้ามาในหมู่บ้านและได้ไปมีเรื่องกับ แซงคูส แต่แซงคูสไมได้ตอบโต้อะไร ทำให้ลูฟี่โกรธมาก ลูฟี่จึงออกไปแก้แค้น แต่ก็ถูกพวกโจรจับไปเป็นตัวประกัน แซงคูสก็ได้ตามไปช่วยลูฟี่ที่ถูกเจ้าทะเลโจมตี แล้วก็สามารถช่วยลูฟี่ไว้ได้ แต่เขาก็ต้องเสียแขนไปข้างนึง ฉากนี้เล่นเอาตึงเลยครับ


9. ลูฟี่ช่วยนามิ

เป็นฉากที่กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางต้องต่อสู้กับกลุ่มโจรสลัด อารอง ที่เข้ามายึดเกาะของนามิ โดยฉากสุดซึ้ง คือฉากที่ นามิบอกกับลูฟีพร้อมน้ำตาว่า “ช่วยฉันด้วย” แล้วลูฟี่ก็ฝากหมวกฟางไว้ที่นามิ แล้วก็ไปจัดการอารอง ในตอนที่ลูฟี่กำลังจะพังฐานของอารองได้ตะโกนบอกนามิว่า “นามิ เธอคือพวกพ้องของฉัน” เล่นเอาขนลุกและซึ้งมากครับ


8. ซินจิอำลา

ในฉากนี้ เป็นฉากที่ลูฟี่มาที่ภัตตาคารบาราติเอ เพื่อมาชวนซันจิออกทะเลไปด้วยกัน หลังจากต่อสู้กันเสร็จ ซันจิได้ตัดสินใจที่จะไปกับลูฟี่ คำพูดของ เชฟขาแดง ทำเอาทั้งซันจิและแฟนๆ One Piece น้ำตาร่วง ก็คือ “ ระวังอย่าให้เป็นหวัดล่ะ “ จากนั้นซันจิก็ก้มหัวลงกับพื้น พูดขอบคุณทั้งน้ำตา แล้วฉากเก่าๆของทั้งคู่ก็เปิดขึ้นมา เมื่อคนดูได้รู้เรื่องราวตอนซันจิยังเด็ก ยิ่งทำให้ซึ้งสุดๆเลยครับ


7. โซโลรับความเจ็บแทนลูฟี่

เป็นฉากที่กลุ่มหมวกฟางต้องเจอกับคุมะ แล้วทุกคนก็ถูกคุมะอัดจนล่วง แล้วคุมะก็เดินตรงไปที่ลูฟี่ แล้วโซโลก็เข้ามาขัดขวาง แต่ก็ทำอะคุมะไม่ได้เลย โซโลจึงบอกให้คุมะเอาหัวของเขาไปแทนลูฟี่ คุมะจึงจัดการดึงความเจ็บปวดทั้งหมดของลูฟี่มาใส่โซโลแทน ฉากนี้ที่งตึงทั้งขนลุกเลยครับ


6. อำลา โกอิ้งแมรี่

ในฉากนี้ เป็นฉากที่กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางต้องจากลากับเรือโกอิ้งแมรี่ ที่ร่วมผจญภัยกับพวกเขามานาน ผ่านอุปสรรคมามาก จนมันไม่อาจที่จะไปต่อได้ และในขณะที่ลูฟี่เผาเรือ ก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า “ขอโทษนะ อยากไปต่อให้ไกลกว่านี้อีกหน่อย แต่คงไม่ไหวแล้วละ” ทำเอาน้ำตาร่วงเลยครับ


5. การจากลาของโรบินกับแม่

เป็นฉากโรบินตอนเด็ก ที่โอฮาล่า พวกทหารเรือต้องการมาถล่มเกาะนี้ เพราะเกาะนี้มีพวกที่อ่านอักษรโบราณได้ รวมถึงโรบินด้วย ในตอนที่รัฐบาลสั่งถล่มเกาะนี้ แม่ของโรบินได้โอบกอดลูกเป็นครั้งสุดท้าย และบอกให้โรบินหนีไปจากเกาะ เป็ฯฉากที่เศร้าเอามากๆครับ ชีวิตรันทดจริงๆเลยโรบิน


4. กลุ่มหมวกฟางล่มสลาย

ในฉากนี้ คือฉากที่กลุ่มหมวกฟางเจอกับคุมะ นั้นคือวันสุดท้ายที่กลุ่มหมวกฟางจะได้อยู่ด้วยกัน คุมะใช้พลังซัดกลุ่มหมวกฟางหายไปทีละคน จนลูฟี่เป็นคนสุดท้าย ซึ่งคุมะมีเจตนาที่จะส่งพวกเขาไปฝึกในที่ต่างๆ ทั่วแกรนไลน์นั่นเอง ฉากนี้สงสารลูฟี่เอามากๆครั


3. ลูฟี่ VS อุซป

ฉากการต่อสู้ระหว่างลูฟี่กับอุซปที่เมือง วอเตอร์เซเว่น เมืองแห่งน้ำในเมื่อ อุซป ต้องการจะปกป้องเรือโกอิ้งแมรี่ ให้รอดพ้นจากการทำลาย เนื่องจากกระดูกงูของเรือหักไม่สามารถไปต่อได้ ในขณะที่ลูฟี่ต้องตัดสินใจหาเรือใหม่เพื่อให้กลุ่มโจรสลัดลูฟี่เดินทางต่อได้ การต่อสู้กันเองของคนในกลุ่ม ทำเอาทั้งคนในกลุ่มหมวกฟางและคนดู น้ำตาร่วงเลยครับ


2. โรบินอยากมีชีวิตอยู่

ฉากนี้เหตุเกิดที่เกาะ เอนิเอส ล็อบบี้ กลุ่มหมวกฟางต้องเจอกับ CP9 โรบินถูกนำตัวไปให้รัฐบาลประหารชีวิต และลูฟี่และเพื่อนๆได้เข้ามาช่วย ฉากสุดซึ้งเป็นฉากที่ ลูฟี่ตะโกนบอกโรบินว่า “พูดออกมาสิ ว่าอยากจะมีชีวิตอยู่” โรบินก็ได้ตะโกนตอบกลับพร้อมน้ำตาว่า “ฉันอยากมีชีวิตอยู่” อั้นน้ำตาไม่อยู๋จริงๆครับฉากนี้


1. เอสตาย

เชื่อเลยครับ หลายคนคงยอมรับในดันอับ 1 แน่นอน ฉากที่ซึ้งและตึงที่สุดของการ์ตูนเรื่องนี้ เป็นฉากที่ เอสถูกอาคาอินุต่อยหมัดลาวาทะลุตัวต่อหน้าลูฟี่ ทั้งที่คนโดนต่อยควรจะเป็นลูฟี่ แต่เอสมาช่วยไว้ 




 อ้างอิงโดย : https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1118669904818892.1073741862.515442388474983&type=3&pnref=story

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

8 ของแปลกจาก Japan !!

อุปกรณ์ความงาม
1.เครื่องโกยหน้าอก
ปกติผู้หญิงจะไม่ชอบให้มือมาอยู่บนหน้าอก แต่เจ้าเครื่องนี้จะช่วยกระชับหน้าอก ที่ไม่เต่งตึงหย่อนคล้อย ให้กลับมาเด้งดึ๋งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก เรียกว่าโกยกันตั้งแต่ข้างหลังกันเลยทีเดียว ใครจะโกยตั้งแต่ปลายเท้าก็ไม่ว่ากันนะ
อุปกรณ์ความงาม
2.อุปกรณ์ช่วยนวดหน้าอก
เครื่องมือช่วยนวดหน้าอก เพิ่มไซด์ให้อกคุณสาวๆ เต่งตึงกระชับมากขึ้น เพียงแค่นวดจากล่างขึ้นบน แถมยังใช้ได้ขณะอาบน้ำอีกด้วย ยังบอกอีกว่าถ้าใช้กับครีมทานวดหน้าอกจะยิ่งทำให้เห็นผลเร็วมากขึ้น ขนาดนั้นเลย!
อุปกรณ์ความงาม
3.มาส์กกระชับหน้า
มาส์กที่จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าให้กระชับ และลดริ้วรอยเหี่ยวย่น เพียงใช้วันละ 5 นาที  หน้าของคุณสาวๆก็จะดูสยองแบบนี้ ไม่ใช่!! ใบหน้าจะอ่อนเยาว์ลงแบบนี้
มาส์ก
4.มาส์กซาวน่า
มาส์กหน้าพิเศษสำหรับซาวน่าโดยเฉพาะ ด้านในจะมีปุ่มซิลิโคนถึง 60 จุดด้วยกัน  ซึ่งจะช่วยนวดกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ทำให้ผิวกระชับเต่งตึงมากขึ้น ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย (เวลาใส่อย่ากลับผิดด้านล่ะ กลายเป็นหน้ากากผีได้เลย)
glasses
5.แว่นทำตาสองชั้น
สาวหมวยที่มีแต่ชั้นเดียว ไม่ต้องเสียใจ แว่นอันนี้จะช่วยแยกไขมันใต้เปลือกตาให้เกิดเป็นเส้นพับกลายเป็นตาสองชั้น โดยให้ใส่ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก็จะได้ตาสองชั้นในทันที วิธีนี้น่ากลัวไปนิดนึงเนอะ!!
จุกนม
6.จุกนมฝึกเสียงให้นุ่มนวล
อุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยให้คุณสาวๆมีเสียงที่ไพเราะนุ่มนวล เพราะมันจะไปช่วยจัดตำแหน่งปากและลิ้น ให้ช่องเสียงของคุณกว้างขึ้นเป็นพิเศษ
ถุงช้อปปิ้ง
7.ถุงช้อปปิ้ง เปลี่ยนเป็นหมวกกันน็อคได้!!
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงเกิดนวัตกรรมถุงผ้าที่ใช้ในยามฉุกเฉินเพื่อป้องกันของตกใส่หัว ด้านล่างของถุงผ้าทำมาจากวัสดุกันกระแทก เพียงแค่ใช้ถุงผ้าเอามาคลุมหัวเอาไว้ ก็ช่วยให้คุณสาวปลอดภัยจากของที่หล่นมากระแทก
แจกัน
8. แจกันเปลี่ยนเสียงตะโกน เป็นเสียงกระซิบได้
ถ้าคุณแม่บ้านที่กำลังโกรธหรือทะเลาะกับสามี ลองเครื่องนี้ดูมั๊ย? เครื่องนี้จะเปลี่ยนเสียงตะโกนของคุณให้กลายเป็นเสียงกระซิบแผวเบาได้ ไม่ว่าสาวๆจะกรี๊ด!!! ร้องตะโกนเสียงดังแค่ไหน เสียงที่ออกมาก็จะนุ่มนวล แถมได้ระบายอารมณ์อีกต่างหาก
                                                                                                        
                                                                                        เรียบเรียงโดย women mthai team